อายุ 24 ปี เป็นช่วงเวลาสุดสนุกของชีวิต เพราะเป็นวัยที่คุณเพิ่งจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาได้เพียงไม่กี่ปี ได้รู้จักคนใหม่ๆ และได้กระโจนเข้าสู่โลกที่แท้จริง ในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะในวัย 24 ปีนั้น คุณกำลังจะกลายเป็นผู้ใหญ่อย่างแท้จริง และการตัดสินใจใดๆ ก็อาจส่งผลกับคุณไปทั้งชีวิตได้
ในเว็บไซต์ Quora ได้ตั้งคำถามว่า “ทักษะใดบ้างที่คนวัย 24 ปีทุกคนควรจะเรียนรู้?” มีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ทักษะที่คนหนุ่มสาววัย 24 ปีควรเรียนรู้ก่อนจะสายไป” ซึ่งสามารถสรุปมาได้ทั้งหมด 11 ทักษะดังต่อไปนี้
1.เป็นสุดยอดนักขาย
“การขาย คือหลักการพื้นฐานของความสำเร็จในธุรกิจ ถึงแม้การขายจะไม่ได้เป็นหน้าที่โดยตรงของคุณ แต่คุณย่อมเกี่ยวข้องกับการขายอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการขายขณะที่ทำการตลาด ระหว่างวางแผนกับทีม การบริการลูกค้า การดูแลจัดการผลิตภัณฑ์ การประชุม การพัฒนาธุรกิจ ฯลฯ การมีพื้นฐานการขายที่ดีจะทำให้คุณได้เปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ” — นิรนาม (Anonymous)
2.ก้าวออกมาจาก comfort zone
“ออกไปสร้างประสบการณ์จริงข้างนอกดูบ้าง ลองทำธุรกิจ พูดคุยกับผู้คน หรือไม่ก็ชวนผู้หญิงน่ารักสักคนออกเดท ไปดำน้ำ ฝึกสนทนากับคนกลุ่มใหม่จนเชี่ยวชาญ และแน่นอนว่าอย่าจริงจังมากไป จนทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ล่ะ” — Christian Pretorius
3.เอาดีให้สุดสักทางหนึ่ง
“เอาดีให้สุดสักทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทักษะ การตัดต่อภาพ ร้องเพลง เต้นรำ ผิวปาก เพราะอย่างน้อยหากวันดีคืนดีคุณตกงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีใครช่วยเหลือ คุณก็จะพอประทังชีวิตตัวเองไปได้ด้วยการเป็นฟรีแลนซ์จากความสามารถพิเศษเหล่านี้ (ต่อให้เป็นแค่การผิวปากก็เถอะ เพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถไปเปิดหมวกข้างถนนขอให้คนร้องเพลงแล้วผิวปากตามดนตรีก็พอได้เงินแล้ว ไม่เชื่อก็ลองดูสิ)” — Rohit Mishra
4.สร้างเครือข่ายสังคมที่ช่วยสนับสนุนคุณ
“เราทุกคนต่างต้องการคนที่คอยช่วยเหลือและส่งเสริมเราให้ได้เจอสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโอกาส เพื่อน ไอเดีย หรือแม้กระทั่งงาน ลองใส่ใจเรื่องการให้คุณค่ากับพวกเขามากกว่าแค่พบกันเฉยๆ ดูสิ เพราะกฎเหล็กของการสร้างเครือข่ายสังคมไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณรู้จักพวกเขากี่คน แต่คือการที่คุณได้ช่วยเหลือคนสำคัญเหล่านั้นมากแค่ไหนต่างหากล่ะ” — Christian Bonilla, ดีไซเนอร์ซอฟท์แวร์และนักเขียน
5.เรียนรู้การเขียนโค้ดโปรแกรม
“เรียนรู้การเขียนและอ่านโค้ดเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับหนุ่มสาววัย 24 ปี แม้ว่าสิ่งที่คุณเรียนมาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก็ตาม แต่อย่างน้อยรุ่นของพวกคุณก็ถนัดกับการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้กันดีกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว เพราะคุ้นเคยกับแทบเล็ต สมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ นานา การเรียนโค้ดโปรแกรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีประโยชน์ต่ออนาคตของคุณ เพราะมันก็ไม่ต่างจากการเรียนภาษานั่นแหละ” — Maria Antsuk
6.ตกหลุมรัก
“ใช่แล้ว ตกหลุมรักนี่แหละ เพราะความรักคือความรู้สึกบริสุทธิ์ที่สุดในบรรดาอารมณ์ทั้งหมดทั้งปวง แล้วอะไรจะสวยงามไปกว่าความรักอีกเล่า? หากคุณไม่เคยตกหลุมรักเลย แสดงว่าคุณได้พลาดอีกหนึ่งความรู้สึกล้ำลึกของมนุษย์ไปแล้ว” — Karan Jaiswani
7.ฝึกสมาธิ
“ในโลกที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายแบบนี้ การฝึกสมาธิเป็นเครื่องมือเดียวที่จะทำให้คุณจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นงานวิจัยพบว่าการฝึกสมาธิเพียง 20 นาทีมีผลเทียบเท่ากับการงีบหลับ 2 ชั่วโมง มันคือการบำบัดจิตที่แม้จะเสียเวลาเพียงเล็กน้อยแต่ส่งผลดีในระยะยาว การฝึกสมาธิอาจต้องใช้ความมุ่งมั่นเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายนัก” — Sanjay Kadel
8.เที่ยวให้มากขึ้น
“ลองสร้างแรงบันดาลใจให้ตนเอง ด้วยวิธีการออกไปท่องเที่ยวดูสิ เพราะการท่องเที่ยวจะสอนให้คุณได้เจอเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิต หาคุณอยู่แถบตะวันตกก็ลองออกไปผจญภัยในแอฟริกา หรือถ้าคุณอยู่ในเขตร้อนก็ลองไปเที่ยวแคนาดาหน้าหนาวดู แล้วคุณจะได้สัมผัสโลกมุมใหม่ เพื่อนใหม่ และได้ฝึกที่จะมอบความรักให้สิ่งรอบตัว” — นิรนาม (Anonymous)
9.หมั่นหาความรู้เป็นต้นทุนชีวิต
“อย่าเอาแต่นั่งดูทีวีหรือเที่ยวเล่นไปทั่ว ลองอ่านหนังสือให้มากขึ้น หรือไม่ก็เข้าร่วมงานสัมมนาต่างๆ เพราะมันจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตคุณและสร้างผลกำไรต่อตัวคุณเองเมื่อได้ทำงาน ยิ่งคุณลงทุนกับความรู้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รายได้ตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น” — Janis Butevics,ผู้ประกอบการ วัย 23 ปี, นักเขียน, ผู้ก่อตั้ง Awake or Be Slaved
10.เลิกกังวลอยู่ตลอดเวลา
“ความกังวลเป็นการดูดพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เพราะความกังวลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตหรือสถานการณ์ต่างๆ ได้ การวางแผนและลงมือทำต่างหากที่จะนำคุณไปยังจุดที่คุณต้องการในชีวิต ลองใช้ชีวิตแบบไม่กังวลดูบ้างปรับทัศนคติตนเองใหม่และดูแลสุขภาพ เพิ่มอาหารสมองด้วยความรู้ นั่นต่างหากที่จะเป็นประโยชน์กับอนาคตของคุณ มีความสุขกับปัจจุบัน แล้วเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงดีๆ ที่จะเกิดขึ้น” — Deme Alexis
11.เริ่มเก็บเงิน
“ไม่ว่าคุณจะทำงานเพื่อคนอื่นหรือเพื่อตัวเอง คุณควรฝึกเก็บเงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ เงินเก็บเล็กผสมน้อยในแต่ละเดือนสามารถเปลี่ยนคุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ใน 20 ปีข้างหน้า และยิ่งคุณเก็บออมได้มากเท่าไหร่ ก็ย่อมทำให้คุณรวยได้เร็วขึ้น” — Stefan Stoman
Source : Business Insider
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น