ในช่วงชีวิตที่กำลังดำเนินอยู่ เรามักจะพบเรื่องราวบางเรื่องที่ท้าทายและยากจะฟันฝ่ามันไปได้ บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดและสร้างทัศนคติที่ดีเวลาเผชิญความท้าทายต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถช่วยทำให้ชีวิตคุณสามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้
จะเห็นได้ว่า ความสำเร็จมากมายที่เกิดขึ้นทั้งจากตัวเราและผู้อื่น มักมาจากการมีทัศนคติและการมองโลกในแง่ดีทั้งนั้น ซึ่งหนึ่งในคุณลักษณะที่เป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมเราก็อย่างเช่น การรู้จักเรียนรู้และยอมรับกับความล้มเหลว ว่ามันเป็นเพียงเหตุสุดวิสัยและเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เสมอ การเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและก้าวผ่านมันไปให้ได้เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
เวลาที่เรารู้สึกผิดหวังหรือล้มเหลวขึ้นมา หรือ สิ่งที่เราหวังไว้ไม่ได้ดั่งใจ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนเราจะต้องรู้สึกผิดหวังเสียใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะพบว่าสิ่งเหล่านั้นมักไม่จีรังยั่งยืนนักหรอก เมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะค่อยๆ เลือนหายไปได้เอง
การจัดการกับความเครียดด้วยการคิดบวก
คนที่คิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีนั้น มักจะมีวิธีในการทำให้ตนเองสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ยาก ๆ ไปได้ โดยพวกเขามักจัดการกับสิ่งเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และคิดไว้เสมอว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่นานก็จะผ่านไป สิ่งที่พบเจอมามันก็เป็นแค่เรื่องชั่วคราว
บางครั้งอาจดูเหมือนว่าคนคิดบวกมักทำอะไร ๆ ก็ดีไปเสียทุกอย่าง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเพียงแค่มีวิธีคิดที่ดีและมีวิธีจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นได้ดีต่างหากล่ะ แน่นอนว่ามันก็ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของคุณเองด้วย ถ้าคุณคิดแบบไหนคุณก็จะเป็นคนแบบนั้น หากคุณชอบคิดบวก คุณก็จะเป็นคนมีทัศนคติและอารมณ์เป็นไปในเชิงบวก แต่หากคุณชอบคิดลบ คุณก็มักจะถูกดึงเข้าหาสถานการณ์แย่ ๆ อยู่เสมอนั่นเอง
ดังนั้น ความคิดและความรู้สึกของเรา จึงส่งผลอย่างมากต่อการกระทำและการแสดงออกของเรา เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นคนชอบคิดบวก คุณจะกลายเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และเริ่มที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้น แถมเร็วขึ้นด้วย
เปลี่ยนคำพูดลบๆ ให้กลายเป็นบวกดูสิ
เริ่มต้นด้วยวิธีการที่คุณมักพูดกับตัวเองเวลาที่เจอ “ปัญหา” ให้คุณลองเปลี่ยนคำพูดแง่ลบนี้ให้กลายเป็นคำพูดในแง่บวกดู ด้วย 3 คำง่ายๆ ดังนี้
1. สถานการณ์
แทนที่จะใช้คำว่า “ปัญหา” ลองให้คุณหันมาใช้คำว่า “สถานการณ์” ดูบ้าง
เพราะคำว่าปัญหา มันคล้ายกับสิ่งที่คุณจะต้องพบเจออยู่เรื่อย ๆ แต่หากลองเปลี่ยนมาใช้คำว่าสถานการณ์ คุณจะรู้สึกว่าสิ่งที่คุณเจออยู่นี้ อีกไม่นานมันก็จะต้องผ่านพ้นไป
2. ท้าทาย
จะดีกว่าไหมถ้าจะใช้คำว่า “ท้าทาย” แทนคำว่า “ยาก”
อย่างเวลาที่คุณพบเจอกับปัญหาที่ยากจะแก้ไข หรือสิ่งที่ยากลำบาก แค่ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ มองความยากลำบากให้เป็นเรื่องที่ท้าทาย แล้วต่อสู้กับมัน เปลี่ยนจาก “ฉันกำลังมีปัญหาที่ยากจะแก้ไข” กลายมาเป็น “ฉันกำลังมีเรื่องที่ท้าทายต้องเผชิญ” การท้าทายสิ่งที่ยากลำบาก ล้วนเป็นการคิดบวกที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะมันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นและมีกำลังใจมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
3. โอกาส
และคำที่ดีที่สุดที่ควรใช้เมื่อเจอกับ “ปัญหา” ก็คือคำว่า “โอกาส”
เวลาที่คุณเจอกับสิ่งที่ยากลำบาก แทนที่คุณจะพูดว่า “ฉันกำลังเผชิญกับปัญหา” ลองเปลี่ยนมาพูดว่า “ฉันกำลังเผชิญกับโอกาสที่คาดไม่ถึง”
คุณคงสงสัยว่าโอกาสมันเกี่ยวอะไร? คำตอบก็คือ “ปัญหา” ก็เปรียบเหมือนโอกาสที่คุณจะได้พบเจอกับบทเรียนอันล้ำค่าและหาไม่ได้จากที่ไหนแล้วยังไงล่ะ โดยมีเพียงคุณเท่านั้นที่ได้รับโอกาสพิเศษนี้ เห็นไหมว่าแค่เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว!
4 แนวคิดดีๆ ในการจัดการความเครียด
และนี่ก็คือแนวคิดดีๆ ทั้ง 4 แบบ ที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเครียดและมีทัศนคติที่ดีขึ้นได้
1. ก้าวข้ามปัญหาด้วยการคิดบวก
อันดับแรกเมื่อคุณพบเจอปัญหาหรือความยากลำบากที่ต้องเผชิญ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม อย่าให้ปัญหาเหล่านั้นฉุดคุณลงเด็ดขาด คุณต้องพยายามแก้ไขมันไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะพบว่าปัญหาอันตึงเครียดนั้นจะค่อยๆ คลายลง และทำให้คุณมีมุมมองเชิงบวกต่อปัญหานั้นมากขึ้น ขอเพียงแค่หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายตนเอง แล้วมองหาแต่สิ่งดี ๆ เข้าไว้
2. พูดสิ่งดีๆ กับตัวเอง
ต่อมาให้ขจัดความคิดแง่ลบหรืออารมณที่ไม่ค่อยดีของคุณ ด้วยการพูดสิ่งดี ๆ กับตัวเอง ไม่วาจะพูดในใจ หรือพูดมันออกมาดัง ๆ ก็ตาม เช่น “ฉันทำได้ ฉันยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว” หรือเวลาเข้างานก็อาจพูดกับตัวเองว่า “ฉันชอบในสิ่งที่ฉันเป็น และฉันรักงานที่ฉันทำ!”
จากความสัมพันธ์ระหว่างความคิดและการแสดงออก เมื่อใดที่คุณชื่นชมตัวเองบ่อยๆ มันจะเริ่มเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคุณ แล้วจึงค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งในบุคคลิกภาพของคุณในที่สุด
3. เป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะแกร่งขึ้นได้โดยไม่พบเจออุปสรรค
จงจำไว้เลยว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะพัฒนาตนเองและเติบโตขึ้นจนประสบผลสำเร็จ โดยที่ไม่พบเจอกับอุปสรรคใด ๆ เลย
คุณต้องรู้จักที่จะฝึกจัดการกับความเครียดและก้าวข้ามอุปสรรคยาก ๆ ไปให้ได้ ด้วยการเปิดใจยอมรับมันเข้ามา แล้วจึงมองหาสิ่งดี ๆ ที่แฝงอยู่ในอุปสรรคที่คุณกำลังเผชิญ
4. จงก้าวไปข้างหน้า เพื่อเป้าหมายและความฝันของคุณ
ข้อสุดท้าย จงบอกกับตัวเองเสมอว่า อุปสรรคที่คุณกำลังเผชิญอยู่นี้ ล้วนเป็นสิ่งที่คุณต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงของคุณ และเมื่อไหร่ที่พบเจอกับความล้มเหลว จงให้กำลังใจตัวเองเสมอว่า “ฉันเชื่อว่าทุกอุปสรรคยากๆ ล้วนมอบผลลัพท์อันยอดเยี่ยมให้กับฉันเสมอ”
การฝึกตัวเองให้เป็นคนที่คิดบวกอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อปัญหาอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา และทำให้คุณได้มองว่า ทุกความผิดพลาดล้วนเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นได้ ที่สำคัญไปกว่านั้น ยิ่งคุณมีพลังบวกในใจมากเท่าไหร่ คนรอบข้างคุณก็จะยิ่งได้รับพลังบวกเหล่านั้นจากคุณไปด้วยเช่นกัน
Source : Entrepreneur
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น