26 ธันวาคม 2559

17 หลักการแห่งความสำเร็จ ของ “นโปเลียน ฮิลล์”


สิ่งใดก็ตามที่คุณกล้าจะนึกฝันและเชื่อมั่น ทุกสิ่งนั้นย่อมเป็นไปได้เสมอ
นโปเลียน ฮิลล์ ผู้เขียนหนังสือ “Napoleon Hill’s Keys to Success: The 17 Principles of Personal Achievement” (หนังสือเล่มนี้มีฉบับแปลไทยครับ ชื่อหนังสือชื่อว่า “หัวใจแห่งความสำเร็จ” ยังไงก็ลองหามาอ่านกันได้) เขาได้เผย 17 หลักการที่มีผลต่อความสำเร็จของคนเรา โดยสรุปเป็นใจความสำคัญของแต่ละหลักการไว้สั้นๆ ดังนี้

บทที่ 1 การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

การมีเป้าหมายที่แน่นอนชัดเจน คือจุดเริ่มต้นของการประสบความสำเร็จทั้งปวง การที่คุณไม่มีเป้าหมายหรือแผนการในหัวนั้น จะทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างไร้จุดมุ่งหมายเหมือนกับเรือที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทร

บทที่ 2 การร่วมมือร่วมใจกัน

หลักการของแนวคิดนี้ก็คือ การทำงานร่วมกันระหว่างสองบุคคลขึ้นไปเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ และความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากการร่วมมือกันกับผู้อื่น

บทที่ 3 การมีศรัทธา

ความศรัทธา คือ สภาวะที่จิตใจของเราแฝงไปด้วย เป้าหมาย แรงปรารถนา และแผนการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่จะนำไปสู่ความสมดุลในชีวิตและทรัพย์สิน

บทที่ 4 การทำมากกว่าที่ใครคาดหวัง

เมื่อคุณทำมากกว่าที่คนอื่นคาดหวัง กฎแห่งการตอบแทนจะปรากฎขึ้น
การทำให้มากเกินกว่าที่ใครคาดหวัง คือการปฏิบัติหน้าที่ให้มากกว่าเงินเดือนที่คุณถูกจ้าง และเมื่อคุณทุ่มสุดตัวเมื่อใด เมื่อนั้นคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนอันคุ้มค่าตามมา

บทที่ 5 การมีบุคลิกภาพที่ดี

บุคลิกภาพ คือภาพรวมของ จิตใจ อารมณ์ความรู้สึก ลักษณะท่าทาง และอุปนิสัยของเรา ที่สามารถแยกลักษณะออกจากบุคคลคนอื่นๆ ได้ สิ่งนี้เองที่คนอื่นใช้ตัดสินเราว่าเราเป็นคนน่าไว้ใจหรือไม่

บทที่ 6 การริเริ่มที่ตัวของเราเอง

การเริ่มต้นที่ตัวเราเอง คือพลังที่จะกระตุ้นให้เกิดการบรรลุเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้ มันคือพลังซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกระทำทั้งปวง คุณจะไม่สามารถเป็นอิสระได้เลย จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะทำในสิ่งคุณอยากทำและมีความกล้าพอที่จะลงมือทำมัน

บทที่ 7 การมีทัศนคติที่ดี

การมีทัศนคติเชิงบวก คือสิ่งที่ควรทำในทุกสถานการณ์ เพราะเราคิดสิ่งใดมันย่อมดึงดูดสิ่งนั้นเข้ามาเสมอ ความสำเร็จก็มักดึงดูดความสำเร็จมากมายเข้ามา ขณะที่ความล้มเหลวก็มักจะดึงดูดความล้มเหลวมากมายเข้ามาเช่นกัน

บทที่ 8 การกระตือรือร้น

ความกระตือรือร้น คือการมีศรัทธาหรือความปรารถนาอันแรงกล้าที่ออกมาจากภายใน และสามารถแสดงออกมาผ่านน้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง และอารมณ์ได้

บทที่ 9 การมีวินัยในตนเอง

การมีวินัยในตัวเองเริ่มจากการเป็นนายของความคิดตัวเอง หากคุณควบคุมมันไม่ได้ คุณก็ควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้เช่นกัน ซึ่งการที่คุณจะมีวินัยในตัวเองได้นั้น คุณจำเป็นต้องมีความสมดุลของสมองและหัวใจ หรือสมดุลการใช้เหตุผลและอารมณ์นั้นเอง

บทที่ 10 การมีความคิดที่เที่ยงตรง

พลังแห่งความคิด อาจพลังที่อันตรายที่สุดหรืออาจจะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับมนุษยชาติ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้มันอย่างไร

บทที่ 11 การใส่ใจในสิ่งที่ทำอยู่

การมีจิตใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ นำไปสู่การเป็นนายของความเพียรพยายาม นอกจากมันจะช่วยให้คุณสามารถโฟกัสความคิดของคุณได้แล้ว มันยังช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายและรักษาความตั้งใจของคุณเอาไว้ได้ด้วย

บทที่ 12 การทำงานเป็นทีม

ทีมเวิร์ค คือการทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งก็คือ ความตั้งใจ สมัครใจ และความเป็นอิสระ เมื่อใดก็ตามที่ทุกคนมีความสามัคคีกันในการทำธุรกิจหรืออุตสาหกรรม ความสำเร็จก็ย่อมไม่หนีไปไหน ความสามัคคีกลมเกลียวจึงเป็นเสมือนสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

บทที่ 13 การรู้จักความลำบากและความพ่ายแพ้

ความล้มเหลวเป็นเพียงความพ่ายแพ้เพียงชั่วคราวที่พิสูจน์ว่า นี่อาจจะเป็นพรอันประเสริฐที่แปลงตัวมา หรือเรียกอีกอย่างก็คือ เรื่องดีๆ ที่แฝงอยู่ในเรื่องร้ายๆ
การที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น ล้วนผ่านความยากลำบากและความล้มเหลวมาก่อนแล้วทั้งนั้น

บทที่ 14 การคิดอย่างสร้างสรรค์

การมีความคิดสร้างสรรค์ เกิดขึ้นจากการที่คุณกล้าคิด กล้าจินตนาการได้อย่างอิสระ มันจึงไม่ใช่ปาฏิหาริย์และไม่เกี่ยวกับการมีพรสวรรค์หรือไม่มีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด

บทที่ 15 การมีสุขภาพที่ดี

การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเริ่มด้วยการฝึกฝนสมาธิ ซึ่งก็เหมือนกับการประสบความสำเร็จในการลงทุน ที่เริ่มด้วยการเจริญสติ

บทที่ 16 การบริหารเวลาและเงิน

เวลาและเงินคือทรัพยากรที่มีค่า และมีคนที่กำลังต่อสู้เพื่อความสำเร็จเหล่านี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะต้องครอบครองสิ่งเหล่านี้ให้ได้

บทสุดท้าย บทที่ 17 อุปนิสัย

การพัฒนาและการสร้างนิสัยเชิงบวกจะช่วยให้จิตใจเราสงบขึ้น มีสุขภาพดีและมีความมั่นคงทางการเงินด้วย ดังนั้นความสำเร็จของคุณล้วนมาจากสิ่งเหล่านี้ก็คือ นิสัยเชิงบวก วิธีคิด และการกระทำของคุณเอง

Source : success

ไม่มีความคิดเห็น: