Timothy Sykes ผู้ประกอบการและนักเล่นหุ้นชื่อดังชาวอเมริกัน กล่าวว่าหนึ่งจุดประสงค์หลักในชีวิตของเขาก็คือ การได้สอน สร้างแนวคิด และแนะนำวิธีให้ผู้คนประสบความสำเร็จในชีวิต แต่นิยามของคำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป โดยผู้คนส่วนมากจะนิยามคนที่ประสบความสำเร็จ ว่าเป็น เศรษฐี หรือผู้ที่ไม่เดือดร้อนเรื่องการเงินแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เราจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นเศรษฐีได้ เราจะต้องเรียนรู้จากพฤติกรรมของพวกเขา รู้ว่าพวกเขามีเคล็ดลับอย่างไร และสุดท้ายก็คือ การนำมาปรับใช้กับตัวเราเอง
และในวันนี้ เขาจะมาแชร์ในสิ่งที่เขาได้ศึกษามาจากเศรษฐีกว่าหลายท่าน ไม่ว่าตอนนี้สถานะทางการเงินของคุณจะเป็นอย่างไร หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยคุณได้!
1. เศรษฐีขยันหมั่นเพียร
หลายคนคิดว่าการถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ๆ คือทางลัดไปสู่ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วเงินกว่า 90% ที่ถูกรางวัลลอตเตอรี่จะหมดภายใน 5 ปีหรือน้อยกว่านั้น เหล่าเศรษฐีรู้ดีว่ามันไม่มีทางลัดทางไหนที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ นอกจากการทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง
Timothy Sykes กล่าวว่า “ผมคงไม่มีทางมายืนอยู่จุดนี้ได้ ถ้าในอดีตผมไม่ขยัน ผมไม่มีแม้แต่ผู้ให้คำแนะนำ เมื่อตอนที่ผมเริ่มเล่นหุ้นในช่วงมัธยมปลาย ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผม ผมมีเวลาเหลือเฟือสำหรับไปเที่ยวกับเพื่อน เล่นวิดิโอเกม และอีกหลายอย่างมาก แต่ผมกลับเลือกที่จะมานั่งหน้าจอคอมและศึกษาชาร์จตลาดหุ้นเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน ผมจะทุ่มเทให้กับงานก่อนเสมอ เพราะผมรู้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันต้องคุ้มค่าต่อการลงทุนครั้งนี้แน่ ตอนนี้ผมใช้ชีวิตอย่างที่ผมฝันไว้เพราะผมไม่กลัวที่จะทำงานหนัก”
2. เศรษฐีจดจ่ออยู่กับเป้าหมาย
มันไม่ใช่แค่การทำงานหนัก แต่คุณต้องทุ่มเททำงานหนักให้ถูกทาง Don’t work harder , work smarter!
ผมเคยเห็นใครหลายๆคนเปลี่ยนความฝันของตัวเองให้เล็กลง หรือลบมันทิ้งอย่างสิ้นเชิง เพียงเพราะความเห็นของคนอื่นที่บอกว่า คุณไม่มีทางทำได้ อย่าเอาความคิดของคนอื่นมาตัดสินความสามารถของตัวเอง ทุกคนต่างมีความฝันว่าจะเป็นเศรษฐี แต่จะมีคนกลุ่มนึงที่ทำไม่สำเร็จ เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถโฟกัสไปที่ความฝันและเป้าหมายของตัวเขาเองได้
3. เศรษฐีรู้วิธีบริหารความเสี่ยง
ผมคิดว่าการเล่นหุ้นคือหนึ่งในหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างการเงินที่มั่นคง ถ้าคุณรู้วิธีบริหารความเสี่ยง
ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่คุณจะต้องระมัดระวัง ผมไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรเผชิญหน้ากับเสี่ยง แต่คุณควรคำนวณทุกความเสี่ยงให้รอบคอบก่อนที่จะเผชิญกับมัน เช่นเดียวกับ การเล่นหุ้น การเล่นหุ้นคุณต้องคำนวณเรื่องความเสี่ยงและผลกำไรที่จะได้ พูดง่ายๆก็คือ คุณยอมเสี่ยงเท่าไหร่กับผลกำไรเท่านี้ คุณจะต้องคำนวนตัวเลขเหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนที่จะลงทุน
คุณสามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ถ้าความเสี่ยงมีมากกว่าผลประโยชน์ที่คุณจะได้ อย่าเสี่ยง แต่ถ้าผลประโยชน์มากกว่า คุณก็ควรลองเสี่ยงดู
4. เศรษฐีเป็นคนเอื้อเฟื้อ
ผมแนะนำให้คุณลองไปศึกษาแนวคิดจากเหล่าเศรษฐีใจบุญ เช่น Bill Gates, Warren Buffett, Carl Icahn และ Ken Langore เศรษฐีเหล่านี้จะมีแนวคิดที่ว่า “การให้สามารถทำให้เรารู้สึกดี พอๆกับการรับ”
Timothy Sykes นักเล่นหุ้นชื่อดัง กล่าวว่า “เมื่อไม่นานมานี้ผมเพิงเริ่มก่อตั้งองค์กรการกุศลที่มอบเงินสองล้านดอลลาร์คืนแก่ชุมชนของผม และต้องขอบอกเลยว่ามันรู้สึกดีมากๆ ผมน่าจะเริ่มตั้งองค์กรให้เร็วกว่านี้ ผมจึงตั้งใจจะทำโครงการนี้ไปเรื่อยๆเพื่อชดเชยให้แก่ช่วงเวลาที่เสียไปก่อนหน้านี้”
5. เศรษฐีไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมาก เหล่าเศรษฐีชอบที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ เพราะพวกเขามักจะมองหาหนทางในการเพิ่มพูนทักษะและพัฒนาศักยภาพของตัวเอง พวกเขาอ่านหนังสือ ดูสารคดี เรียนรู้จากสื่อการเรียนรู้ต่างๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่เก่งๆเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล พวกเขารู้ดีว่าความรู้คือขุมพลังแห่งอำนาจ พวกเขาจึงไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้
ไม่ว่าตอนนี้คุณจะยืนอยู่จุดไหนก็ตาม คุณสามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะต้องคุ้มค่าอย่างมากกับความทุ่มเทของคุณแน่นอน ผมขอให้คุณโชคดีครับ ว่าที่เศรษฐี!
Source : Entrepreneur
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น