เช้าวันใหม่ในออฟฟิศมาถึงแล้ว วันนี้จะเป็นวันที่ดีไหมนะ? จะเป็นวันที่มีเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลหรือไม่? แม้ว่าออฟฟิศจะเป็นสถานที่ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่มีหลายสิ่งที่คนทำงานเป็นมักทำแตกต่างจากคนทั่วไป เพื่อทำให้ทุกๆ วันของพวกเขาเกิดประโยชน์สูงสุด คนทำงานเป็นจะรู้ดีว่าใน 10 นาทีแรกของทุกๆ วันในออฟฟิศ จะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการทำงานตลอดทั้งวันได้ พวกเขาจะทำบางสิ่งบางอย่างก่อนการเริ่มงานในทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการจะเป็นคนมีประสิทธิผล ลองทำ 7 สิ่งนี้ดูสิ ในช่วง 10 นาทีแรกก่อนการเริ่มงาน รับรองได้ผลดีต่อตัวคุณและบริษัทแน่นอน
1. เขียน 3 สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจ
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไมอามี่ เกี่ยวกับความประทับใจ พบว่ากลุ่มคนที่เขียนบันทึกประจำวันเกี่ยวกับความประทับใจของตัวเองมักจะมีความสุขและมีประสิทธิผลมากกว่าคนทั่วไป Sheryl Towers โค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตนเอง ได้กล่าวในหนังสือ Seeds of Success ของเธอว่า ”ผลของงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเขียนบันทึกประจำวันเกี่ยวกับความประทับใจของตนเองนั้น ส่งผลให้ระหว่างการทำงานมีความตื่นตัว กระตือรือร้น มุ่งมั่น คิดแง่บวก และมีพลังใจมากขึ้น นอกจากนี้ บุคคลเหล่านี้จะมีความหดหู่และความเครียดน้อยกว่าคนทั่วไป รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะให้ความช่วยเหลือผู้อื่นและมีความก้าวหน้าในการทำงานตามเป้าหมายมากกว่าคนทั่วไปด้วย”
2. จัดโต๊ะทำงานให้มีระเบียบ
หากพูดถึงการจะทำตัวเองให้เป็นคนที่มีประสิทธิผล คงไม่มีอะไรจะมาขัดขวางคุณได้มากไปกว่าการที่โต๊ะทำงานของคุณเละเทะระเกะระกะอีกแล้ว หากคุณต้องใช้เวลาเพื่อมัวหาปากกา ที่เย็บกระดาษ สมุดโน้ต หรือแม้แต่เอกสารสำคัญต่างๆ อย่างเร่งรีบอยู่บ่อยๆ มันก็เป็นการสิ้นเปลืองเวลาโดยใช่เหตุ ดังนั้น คุณควรใช้เวลาสักพักในระหว่าง 10 นาทีแรกของการทำงาน เพื่อจัดแจงโต๊ะทำงานของคุณให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการหาสิ่งของต่างๆ ที่ต้องใช้ในระหว่างวันนั่นเอง
3. พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณ
คุณควรเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการกล่าวทักทาย พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่ควรรู้ในการจะเป็นคนที่มีประสิทธิผลคือ คุณควรรู้ว่าคำถามที่คุณกำลังสงสัยอยู่นั้น คุณควรจะถามใครและควรจะถามเมื่อไหร่? การที่คุณพยายามจะหาคำตอบในทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวคุณเองนั้น ในบางทีมันกลับเป็นเหมือนอุปสรรคที่ขวางกั้นความสำเร็จโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ดังนั้นคุณควรพยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานของคุณ เพราะคนที่มีประสิทธิผลจะรู้ดีว่ามิตรภาพนั้นสำคัญมากแค่ไหน พวกเขาจึงใช้เวลาในช่วง 10 นาทีแรกของทุกวัน เพื่อเดินไปรอบๆ ออฟฟิศ กล่าว “สวัสดี” ทักทายและพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นอย่างเป็นมิตร
4. เขียนเป้าหมายที่สำคัญ 3 อันดับแรกที่ต้องทำในแต่ละวัน
คนที่ทำงานเป็นมักจะเขียนเป้าหมายที่สำคัญ 3 อันดับแรกที่เขาต้องทำในแต่ละวันไว้ และหากพวกเขาทำไม่สำเร็จ ก็จะถือว่าวันนั้นเป็นวันที่มีอะไรขาดหายไปหรือไม่ก็เป็นวันที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง การวางเป้าหมายที่สำคัญ สามารถช่วยให้คุณโฟกัสอยู่กับเรื่องที่สำคัญได้เป็นอย่างดี แทนที่จะถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปกับเรื่องอื่นๆ ที่วุ่นวายในออฟฟิศ
5. ทบทวนรายการสิ่งที่ต้องทำของคุณ
เมื่อคุณจัดลำดับความสำคัญต่างๆ เรียบร้อยแล้ว คุณควรเช็คว่าสิ่งที่อยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำของคุณนั้น มีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายและความสำคัญของงานที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งการทำรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันจะช่วยให้คุณรู้ว่าแผนถัดไปหลังจากส่วนนี้ จะเป็นส่วนใดต่อไป มันจะช่วยให้การทำงานระหว่างวันของคุณสะดวกยิ่งขึ้น
6. ตอกย้ำเป้าหมายตนเองในทุกๆ วัน
คนที่มีประสิทธิผลมักจะมองโลกในแง่ดีและมีความหวังอยู่เสมอ พวกเขาจะไม่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างหมดหวังแน่นอน เขาจะทำทุกๆ วันให้เป็นวันที่ดีที่สุด Matthew D. Della Porta ผู้เขียนหนังสือ The How of Happiness เขียนไว้ว่า “การตอกย้ำเป้าหมายตนเองถือเป็นการช่วยให้สมองของคุณคิดในแง่บวก มันช่วยทำให้ความจริงหลายๆ อย่างเผยออกมาชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังช่วยการสร้างความอุ่นใจและปรับแนวคิดการมองโลกของคุณด้วย เราอาจกล่าวได้ว่ามันเป็นวิธีการที่มีประสิทธิผลในการมุ่งไปสู่การปรับทัศนคติของคุณเลยก็ว่าได้”
7. อ่านคำคมที่ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจ
ทุกวันคุณควรเติมพลังใจในการทำงานด้วยคำคมหรือวลีเด็ดๆ ของบุคคลที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน คนที่มีประสิทธิผลมักจะหาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบหรือเป็นไอดอลของพวกเขาอยู่เสมอ ด้วยการอ่านคำคมสร้างแรงบันดาลใจเหล่านั้น
ใน 10 นาทีแรกของวัน มันสามารถเป็นตัวกำหนดความมีประสิทธิภาพในการทำงานของทั้งวันนั้นได้ หากคุณลองก้าวตามเส้นทางของคนมีประสิทธิผลทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นนี้ แล้วทุกๆ วันของคุณจะเป็นวันที่มีความหมายและช่วยให้คุณกลายเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
Source : Life Hack
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น