27 กุมภาพันธ์ 2560

9 สิ่งที่ “คนมีความหลงใหล” มักทำแตกต่างจากคนทั่วไป


คุณเคยมี ความหลงใหล (Passion) กับอะไรบ้าง? ความหลงใหลไม่ใช่แค่เพียงสิ่งที่คุณทำอยู่หรอกนะ แต่มันคือตัวตนที่แท้จริงของคุณเอง เพราะมันทำให้คุณกระตือรือล้น รีบตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า และพร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่กับมัน
ดร. โรเบิร์ต วัลเลอแรนด์ จากมหาวิทยาลัย Quebec เป็นผู้ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความหลงใหล เขายืนยันว่า ความหลงใหลเป็นสิ่งนิยามตัวตนของคนๆ นั้นได้ “ความหลงใหลคือการที่คนๆ หนึ่งรักในสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่พวกเขาคิดว่าสำคัญ และอุทิศทั้งเวลา แรงกายแรงใจทั้งหมดให้กับมัน”
“ความหลงใหลนำมาซึ่งอัจฉริยภาพ” – กาลิเลโอ (Galileo)
ดร.วัลเลอแรนด์และทีมวิจัยอีกสองคนได้วิจัยผลการศึกษาจากนักดนตรีจำนวน 187 คน พบว่า คนที่มุ่งมั่นฝึกฝนเพื่อให้การแสดงของตนสมบูรณ์แบบ หรือที่เขาเรียกว่า “ความชำนาญ” จะสามารถพัฒนาทักษะของตนได้มากกว่าคนที่มุ่งมั่นเพียงเพื่อจะเก่งกว่านัก ดนตรีคนอื่นๆ ดังนั้น หากคุณมีความหลงใหลในสิ่งใดแล้ว คุณจงมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่แข่งขันกับคนอื่น
แล้วสงสัยกันไหมว่าความหลงใหลที่ว่านี้มันมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่? วิธีที่ดีในการทำความเข้าใจมันก็คือ การเรียนรู้ว่าผู้คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลนั้นมักทำอะไรที่แตกต่าง จากคนทั่วไปบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ เราไปชมกันเลย!

1. พวกเขาหมกมุ่น

พวกเขาจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ไม่ใช่ในแบบโรคย้ำคิดย้ำทำ(OCD) แต่เป็นความหมกมุ่นในเชิงบวก เป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “จงทำในสิ่งที่คุณรัก  แล้วคุณจะไม่รู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องเหนื่อยกับการทำงานอีกเลย”
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาจะวนเวียนคิดถึงสิ่งที่ตนเองหลงใหลอยู่เสมอ ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกกดดันหรือหนักใจ แต่เป็นความตื่นเต้นต่างหาก เพราะการหมกมุ่นสามารถสร้างแรงบันดาลใจและทำให้พวกเขามีความสุขได้

2. พวกเขาไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

คุณไม่มีทางได้พบคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลมาเดินเตร็ดเตร่เล่นโป เกมอนโกข้างถนนหรอก เพราะพวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะทำอะไรไร้สาระหรือฆ่าเวลาอย่างแน่นอน พวกเขาแทบจะทุ่มเทเวลาทุกนาทีไปกับสิ่งที่หลงใหล และมันก็คงไม่มีอะไรที่เขาจะอยากทำไปกว่านี้อีกแล้ว

3. พวกเขามองโลกในแง่ดี

ผู้คนเหล่านี้จะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ พวกเขาไล่ตามเป้าหมายใหม่ๆ ของตัวเองอยู่เสมอ ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะต้องทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน คุณคงจะจำความรู้สึกเวลากำลังเฝ้ารอสิ่งที่สำคัญมากๆ ได้ใช่ไหม? นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้คนเหล่านี้กำลังรู้สึกอยู่ทุกๆ วัน

4. พวกเขาเป็นคนตื่นแต่เช้า

ผู้คนที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหลจะกระตือรือร้นเกินกว่าจะเสียเวลาไปกับ การนอนหลับ ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่ชอบการนอนนะ แต่พวกเขาเพียงแค่อยากลุกไปทำสิ่งที่ตัวเองรักมากกว่า เพราะมันเต็มไปด้วยความคิดและความตื่นเต้นที่กำลังรออยู่ตรงหน้ายังไงล่ะ

5. พวกเขากล้าที่จะเสี่ยงในเรื่องสำคัญ

หากอยากรู้ว่าตัวเองต้องการบางสิ่งบางอย่างมากขนาดไหนนั้น ให้ดูจากการที่คุณเต็มใจจะเสี่ยงมากแค่ไหนนั่นเอง ไม่มีใครยอมทุ่มเทให้หมดหน้าตักเพื่อให้ได้สิ่งที่สนใจแค่ครึ่งๆ กลางๆ หรอก สำหรับผู้คนที่เต็มไปด้วยความหลงใหล พวกเขาย่อมเต็มใจเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงก็ตาม

6. พวกเขามักทำอะไรให้มันสุดๆ

พวกเขาไม่ทำอะไรแบบครึ่งๆ กลางๆ ถ้าจะทำอะไรจะต้องไปให้สุดจนกว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็พุ่งชนให้ล้มกันไปข้าง หนึ่ง และถ้าเป็นเวลาพักผ่อน พวกเขาก็จะอยู่เฉยๆ ผ่อนคลายให้สุดๆ เช่นกัน

7. พวกเขามักพูดคุยในเรื่องที่ตนเองหลงใหลอยู่ตลอดเวลา

ผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกตัวเองออกจากสิ่งที่หลงใหลได้ พวกเขามักจะคลุกคลีอยู่กับเรื่องความชอบของตัวเองอยู่ตลอดเวลา และมักจะพูดในสิ่งที่หลงใหลอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าคนอื่นอาจจะไม่สนใจด้วยก็ตาม

8. พวกเขาตื่นเต้นง่าย

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยรู้สึกเฉยๆ หรืออยู่นิ่งๆ บ้างหรอกนะ เพียงแค่พวกเขาตื่นเต้นได้แม้กับเรื่องเล็กๆ ในสิ่งที่พวกเขาสนใจ เพราะงั้นก็เลยตื่นเต้นได้บ่อยและนานกว่าคนอื่นๆ มีทฤษฎีหนึ่ง อธิบายว่าคนประเภทนี้มักทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับหนึ่งหรือสองสิ่งเพียงแค่ เท่านั้น จึงมีแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวหน้าและมีความตื่นเต้นพลุ่งพล่านในตัวมากกว่า คนอื่น

9. งานคือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา

ผู้คนที่หลงใหลในงานของตน ไม่เคยกังวลเรื่องสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เพราะงานก็คือตัวตนของพวกเขา และไม่อาจแยกออกจากกันได้ หายใจเข้าออกก็เป็นงานที่พวกเขารัก ดังนั้นจึงไม่มีการทิ้งงานค้างเอาไว้เด็ดขาด เพราะการทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าปฏิเสธตัวตนของตัวเองเลยทีเดียว แล้วการใช้ชีวิตแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่โอเคสำหรับพวกเขาด้วยนะ เพราะไม่มีอะไรที่อยากทำนอกจากงานเหล่านี้ที่พวกเขารักแล้วจริงๆ

ตอนนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าอะไรที่ทำให้ผู้คนที่มีความหลงใหลนั้นแตกต่างจากคนอื่น แล้วคุณล่ะ!? คิดว่าในชีวิตตัวเองมีความหลงใหลกับสิ่งที่ทำมากพอแล้วหรือยัง?

Source : talentsmart

ไม่มีความคิดเห็น: