การไม่แบ่งเวลาสามารถทำให้วันธรรมดาๆ วันหนึ่งกลายเป็นวันที่แย่ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลืมทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือถึงขั้นส่งงานล่าช้ากว่ากำหนด แต่ละคนจะมีวิธีการแบ่งเวลาไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนสามารถแบ่งเวลาได้ดี และบางคนก็กำลังค่อย ๆ เรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง แต่ก็ยังมีคนอยู่บางกลุ่มที่มักทำอะไรล้มเหลวเป็นประจำ เนื่องจากการไม่รู้จักแบ่งเวลา
“สิ่งสำคัญของการแบ่งเวลา คือ มันเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของคุณ”
ดังนั้น เราจึงไม่ควรละเลยในเรื่องนี้ เราไปดูกันเลยดีกว่า 11 พฤติกรรมของคนที่ไม่ยอมแบ่งเวลา นั้นมีอะไรบ้าง?
1. ไม่จัดตารางเวลา
คุณอาจคิดว่าคุณสามารถจัดการทุกอย่างได้ โดยไม่ต้องมีการวางแผนหรือจัดเวลาใดๆ
ถ้าคุณคิดแบบนี้ ผมขอบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด! เพราะการจัดตารางเวลานั้นมีความสำคัญอย่างมาก มันสามารถทำให้คุณได้วางแผนจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยละเอียด รวมทั้งบันทึกสิ่งที่คุณต้องทำในแต่ละวันโดยไม่ละเลยสิ่งใดไป ดังนั้น หากคุณไม่จัดตารางเวลาให้ดีล่ะก็ คุณก็จะเสียเวลาในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น และอาจลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปได้ง่ายๆ
2. ไม่จดบันทึก
“การจดบันทึกเป็นสิ่งที่มักทำควบคู่ไปกับการวางแผน”
วิธีง่าย ๆ ในการจดบันทึกก็คือ จดบันทึกไว้ในอุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวคุณ สิ่งไหนก็สามารถเป็นเครื่องมือจดบันทึกให้กับคุณได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแพลนเนอร์ โทรศัพท์มือถือ ปฎิทิน หรือแม้แต่กระดาษโน๊ตต่างๆ แต่ผมมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ จะแนะนำ ให้คุณพยายามจดไว้ในที่เดียวกันจะดีกว่า เพราะเวลาเรียกใช้จะได้หาง่ายๆ และไม่ลืมว่าคุณจดไว้ที่ไหน
3. ไม่มีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่
“คนที่ทำอะไรไม่สำเร็จส่วนใหญ่นั้น มักจะไม่มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่”
หากคุณเป็นคนที่ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เหม่อลอยและฟุ้งซ่านคิดแต่เรื่องอื่นบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัญหากับคุณได้ ดังนั้น คุณต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้คุณนั้นวอกแวก และพยายามตั้งสติจดจ่อกับสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำเข้าไว้
4. ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง
มันก็เป็นเรื่องปกติที่คนเรามักผลัดวันประกันพรุ่ง แต่การผลัดวันประกันพรุ่งจนติดเป็นนิสัยไปแล้วนี่สิ คือสิ่งที่เป็นปัญหา หากว่าคุณขี้เกียจหรือมักหาข้ออ้างที่จะไม่ทำสิ่งใดๆ และบอกกับตัวเองว่า “เดี๋ยวค่อยกลับมาทำ” หรือ “ไว้ค่อยทำวันหลัง” มันคือสัญญาณที่ไม่ดีนัก คุณควรหาแรงจูงใจและรีบทำงานนั้นให้เสร็จ
5. ไม่มีกิจวัตรประจำวัน
กิจกรรมต่างๆ ที่คุณทำเป็นประจำ มักจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงจูงใจในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟยามเช้า ตลอดจนถึงการออกกำลังกายยามเย็น กิจกรรมเหล่านี้ล้วนช่วยจัดรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้
6. ไม่แบ่งเวลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ชีวิตจะไปมีความหมายอะไร? ถ้าคุณเอาแต่ทำงานหนักลูกเดียว แต่ชีวิตไม่มีความสุข ฉะนั้นการแบ่งเวลาให้กับกิจกรรมที่ชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ย้ำว่า “ต้องแบ่งเวลา” เพราะถ้าหากว่าคุณยุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลย สุดท้ายคุณก็ต้องหยุดทำกิจกรรมเหล่านี้ไปด้วย
7. ลืมวันหยุดสุดสัปดาห์
“อย่าปล่อยให้วันหยุดของคุณนั้นว่างเปล่า”
คุณควรวางแผนว่าจะทำอะไรบ้างในวันหยุดเหล่านี้ การวางแผนให้กับวันหยุดจะทำให้คุณได้สำรวจการใช้เวลาของตัวเอง และจะส่งผลให้คุณใช้เวลาในการพักผ่อนอย่างคุ้มค่ามากที่สุด แถมได้ทำอะไรสนุกๆ มากมายตามแผนการที่วางเอาไว้
8. ไม่ตั้งเป้าหมาย
“เป้าหมายในวันนี้มีอะไรบ้าง? อาทิตย์นี้ล่ะ? และในเดือนนี้ล่ะ?”
การตั้งเป้าหมายจะทำให้ชีวิตคุณมีระบบระเบียบมากขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยคุณก็จะมีความก้าวหน้าเกิดขึ้น
9. ไม่ยอมจัดลำดับความสำคัญ
งาน เงิน และชีวิตส่วนตัว การจัดลำดับความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ แถมยังสอดคล้องกับการแบ่งเวลาอีกด้วย หากคุณไม่จัดลำดับความสำคัญให้ดี คุณก็อาจใช้เวลาไปจนหมด กับงานงานหนึ่ง จนลืมสิ่งที่สำคัญกว่าไป
เวลาที่คุณวางแผนสิ่งต่างๆ ให้คุณลองลิสต์ว่าสิ่งไหนบ้างที่คุณต้องทำ และสิ่งไหนที่ยังไม่จำเป็น หากใช้วิธีนี้ เมื่อถึงเวลาที่คุณทำหลายสิ่งหลายอย่างไม่ทัน คุณก็จะรู้ว่าสิ่งไหนควรตัดออกไปและสิ่งไหนควรจะทำเป็นอันดับแรก
10. ทำหลายอย่างมากเกินไป
การทำกิจกรรมมากเกินไปจนแทบไม่มีเวลาพัก สามารถบ่งบอกได้เลยว่าคุณบริหารเวลาไม่ดีพอ ดังนั้น อย่าใส่กิจกรรมลงในตารางเวลาที่อัดแน่นจนเกินพอดี หากคูณรู้สึกไม่สบายใจกับกิจกรรมที่มากมายขนาดนี้ คุณก็ควรลดมันลง เพราะไม่เช่นนั้นปัญหามากมายจะตามมาอย่างแน่นอน
11. ใช้ชีวิตจนหมดแรง
เวลานึกถึงคนที่แบ่งเวลาไม่ดีหรือแบ่งไม่เป็น คุณอาจนึกถึงคนขี้เกียจที่เอาแต่นอนทั้งวัน แต่จริงๆ แล้ว คนแบ่งเวลาไม่ดีมีอยู่หลายรูปแบบ บางคนทำงานมากเกินไป บางคนก็ผลัดวันประกันพรุ่งจนต้องมาเร่งในตอนท้าย และบางคนก็อาจทำงานมากไป จนตัวเองรับไม่ไหว ซึ่งสิ่งเดียวที่คนเหล่านี้มีเหมือนกันก็คือ โอกาสที่ตัวเองจะหมดแรงลงในที่สุด
ในท้ายที่สุด คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะเหน็ดเหนื่อยจากการบริหารเวลาที่ไม่ดี ดังนั้น หากคุณมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ คุณต้องเริ่มจัดการกับตัวเองได้แล้ว!
Source : businessinsider
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น